จากเจ้าหญิงสู่สายลับทรยศชาติ

Yoshiko Kawashima


สายลับในสงครามโลกครั้งที่สองยังเป็นที่กล่าวขวัญจนถึงปัจจุบันน่าจะเป็น  Yoshiko Kawashima - Eastern Jewel เป็นพระธิดาของเจ้าชายซูในราชวงศ์ชิง (  Prince Su of The Iron Helmet )  ซึ่งเป็นสหายสนิทกับเจ้าชายคานิน ( Prince Kanin ) - ลุงของจักรพรรดินีญี่ปุ่น ณ เวลานั้น นำไปสู่ความสัมพันธ์กับ Naniwa Kawashima

Yoshiko Kawashima ( Jin bihul ) เกิดปี 1907 เป็นธิดาคนที่สิบสี่ของ Prince Su มีพี่น้องเป็นผู้ชาย 21 คนผู้หญิง 17 คน  ช่วงนั้นราชวงศ์ชิงเริ่มอ่อนจากผลกระทบจากสงครามภายในและการรุกรานของตะวันตก  เพื่อต้องการรักษาสถานะภาพของราชวงศ์ชิงและเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อญี่ปุ่น  ชะตาชีวิตของเธอได้ถูกกำหนดไว้แล้ว 
 25 ตุลาคม 1913 เธอถูกยกเป็นลูกสาวให้กับ Naniwa Kawashima ซึ่งหลังฉากเป็นสมาชิกสายลับในแมนจูเรีย  เด็กหญิงตัวเล็กๆ อายุ 8 ขวบ ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป๊น Yoshiko Kawashima ต่อมาพอเธออายุ 14 เธออ้างว่าได้ถูกข่มขืนโดยพ่อเลี้ยง ....แต่พออายุ 16 เธอก็มีความสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงเธอเอง และในที่สุด ก่อนอายุครบ 20 ปี เธอก็มีความสัมพันธ์กับผู้อื่นมากมาย  ขณะเธอศึกษาอยู่ที่ Matsumato Girl School  ความสวยของเธอฉายแววออกมา  บวกกับความมีชาติตระกูลทำให้เธอโดดเด่น  พ่อเลี้ยงเธอจะอารมณ์ดีเมื่อเธอแต่งตัวเป็นเด็กผู้ชาย  แต่เมื่อไรเธอแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิงหรือยิ้มแย้มกับเด็กผู้ชาย  Naniwa จะโกรธและทุบตีเธอ  ในปีไทโช 13 ( Taisho period ) เธอลุกขึ้นมาตัดผมและประกาศตนว่าจะฉันเป็นผู้ชาย !หรือด้วยสถานะสะพานเชื่อมระหว่างราชวงศ์ชิงกับญี่ปุ่นทำให้เธอต้องเข็มแข็งและปกป้องตัวเองด้วยการแต่งกายเป็นชาย  


.... ตึกที่เกิดของ Yoshiko Kawashima / Chuandao Fangzi ในภาษาจีนกลาง  ... ขออนุญาติทับศัพท์บางคำนะครับ จนเกล้าจริงๆตั้งอยู่ที่ Lvshun district of southwest  Dalian , เลขที่ 9 ถนน Xinhua of Taiyanggou  สร้างขึ้นในปี  1900 เดิมทีเป็นโรงแรมของนักธุรกิจชาวรัสเซีย  เป็นที่อาศัยของครอบครัว Prince Su ช่วง 1912-1945  และในช่วงเวลา 1931-1932 เป็นที่ประทับของจักรพรรดิ์ปูยี  

แต่ด้วยด้วยภาระและหน้าที่ เธอต้องแต่งงานกับเจ้าชายมองโกล ( สายเลือดเผ่าของบิดาเธอ )  Prince Kanjurjab , son of Mongol General Bobojab เมื่อ พฤศจิกายน 1927  แต่เธอก็หย่าขาดภายในเวลาไม่ถึงสามปี  1931 เธอมีอิสระและเริ่มขีดเขียนเส้นชีวิตเธอเอง

ซึ่งจังหวะชีวิตเธอก็ไม่เบาทีเดียวเลยละ  Yoshiko Kawashima กลับญี่ปุ่นแต่เหมือนไม่มีจุดมุ่งหมายอะไร  เธอนึกถึงเซี่ยงไฮ้เมื่องท่าที่ไม่มีวันหลับใหลเมืองที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติ  แล้วเธอก็ข้ามมหาสมุทรไปที่ของเธอ  ที่เซี่ยงไฮ้ระหว่างงานฉลองปีใหม่ เธอได้พบกับนายทหาร Tokayoshi Tanaka ซึ่งทำงานกับหัวหน้าใหญ่สายลับในจีน 


นายพล Kenji Doihara ( 1883 -1948 )  สายลับที่ฝังตัวอยู่ในทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนตั้งแต่ 1913
สาเหตุหนึ่งของ WW II โดยอ้างเหตุทางรถไฟญี่ปุ่นตอนใต้ของแมนจูเรียตอนใต้ถูกทำลาย ( Mukden / Manchurian incident )  มีฉายาว่า ลอเรนท์แห่งแมนจูเรีย(Lawrence of Manchuria)
นายพล Kenji Doihara คือ หัวหน้าสายลับในจีนนั่นเอง  Yoshiko kawashima ใช้เสน่ห์ของเธอสร้างความสัมพันธ์กับ Tanaka แต่ทว่าถูกปฎิเสธอย่างนุ่มนวลโดยอ้างว่าเธอเป็นถึงองค์หญิงของจีนแต่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญ  เธอก็ไม่ละความพยายาม  อาทิตย์ต่อมา Yoshiko ขอยืมเงิน Tanaka และต่อมาก็ยืมอีกเรื่อยๆ   จนดูเหมือนเธอไม่สูงส่งเท่าที่เขาคิด .... สุดท้ายความสัมพันธ์ได้เกิดขึ้น  กลายเป็นว่า Tanaka สนับสนุนทางการเงินเธอ และเขาใช้สถานะภาพองค์หญิงแห่งราชวงศ์ชิงยกระดับทางสังคม  Yoshiko ไปสถานที่เต้นรำแทบทุกวัน
ได้พบปะกับเจ้าหน้าที่จีน....นั่นคือจุดเริ่มต้นของสายลับ


ด้วยความสัมพันธ์ของเธอกับนายทหาร Tanaka Yoshiko สามารถใช้บทบาทสายลับกับเครือข่ายของนายพล Doihara ในจีน  ความเป็นญาติของเธอทำให้ใกล้ชิดจักรพรรดิปูยียิ่งขึ้น  สามารถเข้านอกในได้ตามสะดวก  โดยอ้างว่าวังของปูยีทำให้นึกถึงบ้านเธอที่เทียนสิน  เธอสามารถควบคุมปูยีให้ทำตามที่ญี่ปุ่นต้องการ รวมถึงการเป็นจักรพรรดิหุ่นเชิดในแมนจูกัว(Manchukuo)

Yoshiko เธอถูกส่งไปยังแมนจูเลียเป็นสายลับที่ทรงเสน่ห์มีบุคคลิกเฉพาะตัว เธอมักแต่งตัวเป็นผู้ชาย...ชุดทหารจีนหรือญี่ปุ่น..ลักษณะแบบทอมบอยยิ่งทำให้ดูโดดเด่น  ทำให้ดึงดูดผู้ชายและเข้ากับผู้ชายห่ามๆได้ง่ายเช่นเดียวกัน   (เชื่อกันว่าเธอมีคู่รักได้ทั้งสองเพศ)

หลังจากนั้นชีวิตเธอก็ขีดเส้นเดินเอง ( จากข้อมูลส่วนตัว ชีวิตเธอสวิงสวายมาก มีการร้องเพลงอัดแผ่นเสียงโพสภาพถ่ายแบบต่างๆ เช่น ทหารจีน คนขับแท็กซี่ โสเภณีชาวเกาหลี - เธอว่าเจ้าหน้าที่จีนชอบ  รวมถึงถ่ายเป็นคุณครู  ) เปรียบกับ มาตาฮารีของตะวันออก  เธอมักให้คนถ่ายรูปเธอแต่งเครื่องแบบทหารบนหลังม้า มีภาพ Yoshiko Kawashima ลงหนังสือพิมพ์และแมกกาซีนต่างๆ  ยกให้เป็น ยอดสายลับหญิง  ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเธอภายหลังเลย

ต่อมาบทบาทชีวิตของ Yoshiko Kawashima ก็เป็นไปตามที่เธอแสดง  มีคนพบเธอนอนกับนักร้องสาวบนเตียงและเวลาเดียวกันเธอก็เป็นเมียลับๆของนายพลทาดะ ( Hayao Tada ) ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะที่ปรึกษาทางทหารของจักรพรรดิ์หุ่นปูยี  เชื่อกันว่าเธอสร้างความร่ำรวยจากการกรรโชกทรัพย์จากพวกพ่อค้าที่มั่งคั่ง  รวมถึงการเรียกค่าไถ่เพื่อนำเงินไปปรอเปรอนักร้องสาวๆและนักแสดงหนุ่ม

จุดสูงสุดในชีวิตของ Yoshiko Kawashima คือ เป็นผู้นำทางการทหารในแมนจูกัว Head of Japanese Pacification in Manchukuo 1934-1940 อำนาจและวาสนาหลั่งไหลเข้ามาหาตัวเธอ  อาจแรงขับดันส่วนตัวหรือความทะเยอทะยานก็ไม่อาจทราบได้  หลังจากนั่นทางกองทัพญี่ปุ่นต้องการให้เธอกลับญี่ปุ่น  คาดว่าคิดว่าอย่างไรเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงจีนคนหนึ่ง  และใช้ประโยชน์จากเธอเรียบร้อยแล้ว  เสมือนถูกละทิ้งจากทางจีนและญี่ปุ่น ..... หลังจากจีนเปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณะรัฐเมื่อปี 1911  บทบาทของราชวงศ์ชิงก็เปลี่ยนไปมาก  บางคนเปลี่ยนนามสกุลเป็นคนธรรมดา

ถึงแม้ราชวงศ์ชิงจะปกครองจีนเป็นเวลาหลายร้อยปี  ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมและภาษาฮั่น   แต่คนจีนบางส่วนยังรู้สึกว่าถูกปกครองโดยคนกลุ่มอื่น (  ราชวงศ์ชิง 1644-1911 )  Yoshiko คงรู้สึกอย่างนั่นเช่นกันการที่ก่อตั้งรัฐแมนจูกัวขึ้นมาในแผ่นดินดั้งเดิมของบรรพบุรุษ  เป็นการมั่นคงว่าดินแดนนี้คือที่ของเราจริงๆ
แต่แล้วเป็นเพียงการหลอกใช้จากญี่ปุ่น  เพื่อหวังปกครองประเทศจีนนั่นเอง

ภายหลังสงครามแปซิฟิกสิ้นสดลง Yoshiko Kawashima ได้ถูกจับโดยกองทัพก๊กมินตั๋งภายใต้การนำของ ผู้นำทางทหาร เจียงไคเช๊ค ในปักกิ่ง ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 1945 และหยิบยื่นความเป็นคนจีนขายชาติ ทรยศแผ่นดินโดยพลัน สาวงามในชุดผู้ชายได้ถูกนำตัวเป็นนักโทษและรอการตัดสิน  จากเดิมที่ตัดสินว่าเธอเป็นแมนจู  บทบาทสายลับที่ฟื้นฟูราชวงศ์ชิงได้กลับมาทำลายเธอเอง

และแล้วจาก Yoshiko Kawashima ได้กลายเป็น Jin Bihul  สตรีชาวจีนที่ทรยศประเทศจีน เธอถูกกล่าวหาว่าทำตัวเป็นสายลับ  เป็นเครื่องมือของญี่ปุ่นรุกรานจีน โทษสถานเดียวคือ ประหารชีวิต ..... ตอนที่เธอถูกจับได้  เธอแค่นหัวเราะกับตัวเองว่า ชีวิตเธอเหมือนช่างเหมือนตัวตลก  ทางรอดเดียวคือให้ทางญี่ปุ่นยืนยันว่าเธอเป็นคนญี่ปุ่น  เธอขอให้พ่อเลี้ยง Naniwa Kawashima ส่งเอกสารมายืนยันว่ามีชื่อ Yoshiko Kawashima อยู่ในครอบครัว  แต่ไม่เป็นผล  ตอนนี้ชีวิตเธออยู่ในกำมือคนอื่นเสียแล้ว เรื่องราวของเธอถูกนำมาเขียนเป็นนิยายและยกให้เธอเป็น มาตาฮารีแห่งตะวันออก (  มาตาฮารีเป็นสายลับสองหน้าที่มีเสน่ห์ยั่วยวนชาวดัทช์ ทำหน้าที่ให้กับเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1 บังหน้าด้วยการเป็นนางระบำในปารีส ) 

Yoshiko คงล่วงรู้ชะตากรรมตัวเองดี ได้เขียนจดหมายถึงเลขาที่ซื่อสัตย์ของเธอ Hachiro Ogata... เมื่อฉันรู้ว่าต้องตาย ฉันกินข้าวสองถ้วย เพื่อนของฉันแสดงความเห็นใจและร้องไห้เพื่อฉัน แต่ฉันยิ้มเพราะฉันไม่อยากแบ่งปันความทุกข์ยกเว้นความสุข ฉันมักจะมีความสุขกับชีวิตฉัน

คุณคิดว่าทำไม ? มีน้อยคนที่จะไม่มีความสุขเหมือนฉัน  แต่ฉันก็ไม่เป็นคนมองโลกในแง่ร้าย  แม้ว่าฉันจะมีมุมที่แย่สำหรับฉัน เพียง 5 นาทีต่อมา ฉันก็มีความสุขและคิดถึงโลกใบนี้และหัวเราะกับทุกๆคน...เธอถูกนำไปหลักประหาร  Yoshiko Kawashima  เจ้าหญิงของราชวงศ์ชิง  ถูกตัดสินยิงเป้าในข้อหาทรยศต่อชาติ ในวันที่ 25 มีนาคม 1948

....หลังจากนั้น 2 เดือนต่อมา มีผู้คนพูดว่า Yoshiko Kawashima ยังคงมีชีวิตอยู่ มีการเปลี่ยนตัวนักโทษจะว่าไปแล้ว Yoshiko Kawashima ก็กลายเป็นตำนานต่อมา มีการเล่าปากต่อปากถึงวีรกรรมของเธอ  มีการสร้างภาพยนตร์และละครมากมาย  แม้กระทั่งกลายเป็นตัวละครในเกม ( Play Station II : Shadow Hearts ) 

Comments

Popular posts from this blog

ซากซับกระท้อน ภาคแรก(๒ตอนจบ)

"ชมรมขนหัวลุก" ตอน ครูวันเพ็ญ

รูปขำๆ ฮาๆ ที่ระเบียงวัดพระแก้ว