รวบรวมเรื่องสยองขวัญเรื่องผีที่น่ากลัวที่สุดสำหรับคนที่ชอบอ่านมากกว่าฟัง!
เรื่องที่๑๗ บ้านเก่า - พี่ผอม
เกิดในกทม. ผ่านมา 7 ปีแล้ว แถวๆดอนเมือง ครอบครัวคุณผอมจะอยู่กันทั้งครอบครัวภายในมี พ่อแม่ ป้าน้า หลาน แล้วก็ตัวคุณผอมเอง ชั้นล่างจะเป็นปูน ชั้น2เป็นไม้ อายุบ้านประมาณ20 ปีได้ เสาบ้านแต่ละเสาจะผ้ายันต์สีแดงแปะอยู่และจะมีตะปูปักผ้ายันต์เอาไว้ทุกเสา โดยเป็นความเชื่อของคนในครอบครัวของคุณผอมว่าเสาทุกต้นที่นำมาปลูกบ้านจะมีเทวดาอยู่เขาจึงนำผ้ายันต์มาแปะเอาไว้เพื่อกักวิญญานนั้นเอาไว้คอยคุ้มครองบ้าน แต่ความน่ากลัวไม่ได้อยุ่ตรงเสานะ
คุณผอมมีหลานชายคนหนึ่งชื่อ นนท์ อายุ16 ท่าทางตุงติง เรียบร้อยหน่อยๆ จนโดนพวกลุงๆป้าๆ ล่อว่าเป็นนางสาวบ้างไรบ้าง โดนเพื่อนกลั่นแกล้งบ้างด้วย ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมพอดี นนท์ก็จะเงียบๆ เก็บเนื้อเก็บตัว บางครั้งนนท์ก็จะเข้ามาถามคุณผอมว่า น้า..ถ้าคนเราตายไปจะไปลำบากมั้ย คุณนนท์ก็ตอบว่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอบไม่ได้หรอก
หลังจากนั้นคุณผอมไปทำงานตจว. 2 วัน พี่สาวก็โทรมาบอกว่าพรุ่งนี้กลับบ้านด่วนเลยนะ นนท์เสียแล้ว ยังไม่ได้ถามไถ่อะไรก็รีบกลับบ้านทันที เมื่อกลับบ้านก็มางานศพ คุณผอมก็ถามว่าทำไมถึงเสีย
พี่สาวก็บอกว่าไม่เห็นลงมากินข้าวตอนเช้า ยายขึ้นไปเรียกก็ไม่ลง พอเห็นว่านานแล้ว ตอนเที่ยง ก็เลยขึ้นไปดูที่ห้อง แต่ไม่ได้ล็อค ก็เปิดเข้าไปดูไม่เห็นมีใครอยุ่ในห้อง แต่ว่าตู้เสื้อผ้าแง้มอยุ่ แม่ของนนท์ก็เดินไปเปิดตู้ดู ปรากฏว่า น้องนนท์ผูกคอตาย ในท่านั่งพับเพียบในตู้แล้ว แม่ของน้องนนท์ก็ช็อคไปเลย แต่สภาพเชือกที่ผูกไว้ต้องให้เจ้าหน้าที่มาตัดเชือกที่ผูกกับคานในตู้ ไม่รู้ว่าผูกในสภาพไหนถึงต้องใช้มีดตัด ในระหว่างที่กำลังจะตัดเชือกนั้นก็มีนกพิราบบินเข้ามาชนกับหน้าต่างห้องดัง ปั้ง! ทุกคนก็ต่างตกใจหันหน้าไปมองแต่ก็ไม่สนใจ แค่นกตัวนั้นก็บินมาชนหน้าต่างอีกรอบ ยายก็คิดว่าน่าประหลาดที่นกบินมาชนได้ หลังจากทำพิธีศพอะไรเรียบร้อยแล้ว ช่วงเวลา 3 วันหลังจากนั้น ห้องของน้องนนท์จะปิดไม่ใช่งานเพราะผู้หญิงในบ้านเป็นคนกลัวผีถึงจะเป็นลูกเป็นหลานก็เถอะ ประตูห้องจะเป็นไม้จะมีรูที่สามารถมองลอดเข้าไปข้างในได้ แม่ของคุณผอมก็ขึ้นไปข้างบน จะต้องเดินผ่านห้องของนนท์ก่อนถึงจะเข้าห้องตัวเองได้ ระหว่างนั้นก็หันไปมองตรงช่องรูระหว่างประตูนั้น ซึ่งช่วงเวลาเย็น ๆ จะมีแดดส่องเข้ามาในห้อง เขาก็เห็นคนก้ม ๆ เงยๆ อยู่ข้างเตียง เป็นผู้ชายตัวผอมๆดำๆ ไม่ใส่เสื้อ หัวเกรียนๆ พอเห็นอย่างนั้นแม่คุณผอมก็ช็อครีบวิ่งลงไปหน้าบ้าน จนคนในบ้านต้องรีบจับตัวไว้
อีกเหตุการณ์หนึ่งหลังจากนั้น จะมีหลานผู้ชายสองคนมาจาก ตจว. เข้ามาติวเข้ามหาลัย ในกทม. แต่ห้องไม่พอ ก็เลยให้นอนห้องของน้องนนท์ เวลาประมาณ ตี1 หลานสองคนก็ยังไม่นอน ก็มีเสียงเอะอะในบ้าน คุณผอมก็ลุกขึ้นมาดู ก็เป็นหลานสองคนนั้นนั่งหน้าตาตื่นกลัว หลานเล่าให้ฟังว่า ตอนที่กำลังนั่งเล่นกีต้าร์อยุ่ ส่วนอีกคนก็อ่านหนังสือหันหลังให้ตู้เสื้อผ้า เขาก็ได้ยินเสียง คนถามมาจากในตู้ว่า ‘ม..มานั่งที่ก..ทำไม’ น้องที่อ่านหนังสืออยุ่ก็หันไปว่าอีกคนที่นั่งเล่นกีต้าร์ว่า ‘ก็ก..จะนั่งตรงนี้ ม..จะว่าอะไร’ เพราะเขาคิดว่าคนที่เล่นกีต้าร์เป็นคนว่าเขา คนเล่นกีต้าร์ก็บอกว่าไม่ได้พูดอะไรเลย ปกติประตูมันจะปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ปรากฏว่าประตูตู้ถูกแง้มออกมา ระหว่างที่แง้มออกมาจะมีชายผ้าสีดำห้อยออกมาจากตู้ ซึ่งในตู้ไม่มีผ้าหรืออะไรตั้งแรกแล้ว และตอนแรกที่เข้ามาในห้องก็ไม่มีอะไรโผล่ออกมาจากตู้เลย นอกจาผ้าสีดำที่ห้อยออกมา จะมีขาเล็กๆแห้ง โผล่ออกมาด้วย แล้วก็ชักกลับขึ้นไปแปปเดียว พอเห็นอย่างนั้นทั้งสองก็เตลิดออกจากห้องไปเลย แม่น้องนนท์ก็เลยขึ้นไปบอกว่า ‘เป็นพี่น้องนะ เขาเข้ามาเรียนติว มาขออาศัยอยู่สามสี่วันนะ ในพี่น้องได้เรียนจะได้มีอนาคตนะ’ พอบอกเสร็จแต่เด็กสองคนนั้นก็ไม่อยากนอน คุณผอมก็เลยขึ้นไปนอนเป็นเพื่อน โดยคุณผอมนอนที่พื้น เด็กสองคนนอนบนเตียง พอนอนไปยังไม่ทันเช้า หลานคนหนึ่งก็ตื่นขึ้นมาโวยวายแบบไม่ลืมตา คุณผอมก็เขย่าตัวถามว่าเป็นอะไร เด็กคนนั้นก็บอกว่า ‘ น้า..ผมไม่ไหวแล้ว ผมกลัวมากเลย มีคนผอมๆ ปากกว้างๆ ในฝัน ไม่ใส่เสื้อ ตัวผอมดำๆ เดินเข้ามา แล้วมาจับหัวไหล่แรงมากแล้วพูด ‘ก..ไม่ให้ม..อยู่ที่นี่’ เด็กสองคนก็อยู่ไม่ได้ หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์เกี่ยวกับตู้ใบนี้เยอะมาก(คุณผอมไม่เล่าว่าเรื่องอะไรบ้าง) คนในบ้านจึงเอาไปถวายวัด
ส่วนห้องก็พยายามที่จะเปิดให้ญาติพี่น้องเขามาอยุ่ แต่ก็ไม่มีใครอยุ่ได้ อีกเหตุการณ์หนึ่ง เพื่อนของพ่อน้องนนท์ เป็นข้าราชการก็มากินเหล้าสังสรรค์กับพ่อน้องนนท์ ก็เมามาก บ้านไกลด้วยก็เลยให้ขึ้นไปนอนห้องน้องนนท์ พอแกขึ้นไปแปนเดียวก็รีบเดินมาว่า ทำไมให้เขาขึ้นไปนอนในเมื่อมีคนนอนแล้ว และที่สำคัญนอนกันถึงสามคนด้วย….แกเล่าให้ฟังว่าตอนขึ้นไปจะนอนในห้อง เขาก็เห็นคนนอนอยู่ เป็นผู้ชายตัวผอมๆ สามคนนอนเรียงกันบนเตียงไม่ใส่เสื้อ ประสานมือเอาไว้ที่หน้าอก เขาก็เลยกล่าวขอโทษ ไม่รู้ว่ามีคนอยู่ พ่อน้องนนท์ก็เลยพาขึ้นไปดู ปรากฏว่าไม่มีใคร พอเห็นอย่างนั้นก็เลยขอกลับบ้านเลยแล้วกัน
หลังจากนั้นครอบครัวของคุณผอมก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปมีบ้านมีครอบครัวเอง ส่วนบ้านหลังก็เปิดให้คนเช่า คนเช่าคนแรกเขาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวด้านล่างของบ้านแต่ก็อยุ่ได้ไม่นาน ลูกชายของเขาก็มาเสียชีวิตลงโดยผูกคอในตู้เสื้อผ้าเหมือนที่น้องนนท์ตายแต่ว่าเป็นตู้เสื้อผ้าด้านล่าง ลูกชายของเขาเป็นคนแข็งแรงเป็นนักกีฬา แต่ที่ฆ่าตัวตายเพราะเขาทะเลาะกับแม่เรื่องเงิน 10 บาท และที่น่าแปลกไปกว่านั้น การผูกคอของเด็กคนนี้คล้ายคลึงกับการผูกคอของน้องนนท์มากเพราะพอถึงตัวแล้วเชือกจะแน่นมากต้องใช้มีดตัดอย่างเดียวเท่านั้น สุดท้ายบ้านหลังนั้นก็ไม่มีใครอยู่แล้ว…..คุณผอมเล่าเพิ่มเติมว่า ตอนช่วงที่น้องนนท์เสีย คนในบ้านก็มานั่งเล่นรวมกัน คุณผอมสังเกตเห็นว่าเสาทุกต้นของบ้านจะมีน้ำไหลเยิ้มออกมา มีคนทรงหรือสามารถสื่อสารทางนี้ได้ เขาบอกว่ามีวิญญานนอกบ้านผสานกับวิญญานในบ้านก็พาวิญญานนอกเข้ามาอยู่ในบ้านโดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เหมือนพากันมาอยู่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านก็กำลงัร้องไห้ว่ากำลงัผีบ้านอ่อนลง ผีนอกเลยเข้ามา เสากำลังร้องไห้
Comments
Post a Comment