รวบรวมเรื่องสยองขวัญเรื่องผีที่น่ากลัวที่สุดสำหรับคนที่ชอบอ่านมากกว่าฟัง!
เรื่องที่ ๑๑ หลอนทั้งหมู่บ้าน - คุณผอม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 12-13 ปี ที่จ.พิจิตร ในหมู่บ้านจะมีผู้หญิงคนนึงคุณผอมเรียกว่า พี่หญิง แกเป็นลูกสาวกำนัน อายุประมาณ 30 ยังไม่ได้แต่งงาน พี่หญิงแกเป็นคนสวย จะมีทั้งคนหนุ่มจนไปถึงคนแก่เที่ยวแวะเวียนกันมาจีบแต่พี่หญิงก็ไม่ได้สนใจใคร จนทางเกษตรอำเภอได้มีข้าราชการมาสำรวจพื้นที่ทำฝายกั้นน้ำและได้มานอนค้างบ้านกำนัน พี่หญิงก็ได้ชอบพอกับเกษตรอำเภอและตกลงว่าจะแต่งงานกัน ก่อนจะถึงงานแต่งประมาณ 1เดือน ตกเย็นก็มีผู้ชายคนนึงได้ปั่นจักรยานมาที่บ้านเรียกพี่หญิงออกไปคุยที่รั้วหน้าบ้าน พอเวลาประมาณ 2 ทุ่ม พี่หญิงก็คว้าจักรยานจะขี่ออกไป แม่ก็ถามว่าดึกดื่นแล้วจะออกไปไหน พี่หญิงแกก็บอกว่าจะไปหาเพื่อนซักหน่อยที่ท่าข้าม (ท่าข้ามคือที่ที่จะไปซักผ้ากันตามคลอง ถ้าเป็นคนแถวนั้นจะไม่ค่อยน่ากลัว) ว่าแล้วพี่หญิงแกก็ปั่นจักรยานออกไปโดยที่ไม่ได้กลับมาบ้านอีกเลย
พอคืนนั้นกำนันก็พาคนมาหากันที่ท่าข้ามห่างออกไปจากบ้านประมาณ 1 กม.กว่าๆ ซ้ายมือจะเป็นป่าไผ่รกๆและทึบ ขวามือก็จะเป็นทุ่งนาโล่งๆ คนก็ช่วยกันแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ชาวบ้านก็พากันคิดว่าน่าจะโดนฉุดไป จึงไปถามกับร่างทรงที่เชื่อถือได้ ร่างทรงก็บอกว่าลองกลับไปหาใหม่ที่ป่าไผ่แล้วครั้งนี้จะเจอ ทุกคนก็เริ่มใจไม่ดี แม่พี่หญิงเองได้ยินแบบนั้นก็ร้องไห้เพราะคิดไปต่างๆนาๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกแน่ พอกลับไปหาที่ป่าไผ่อีกครั้งก็เดินลึกเข้าไปจะเป็นคลองที่มีผักตบชวาซึ่งรกมาก ไม่มีใครใช้ประโยชน์แล้ว ก็เจอรองเท้าแตะก่อนแล้วก็ไปเจอศพของพี่หญิง ลักษณะคือท่อนบนเปลือย ท่อนล่างใส่ผ้าถุงสีดำ ตั้งแต่ใต้ลำคอจนถึงท้องน้อยโดนผ่าออก และพวกอวัยวะต่างๆก็ถูกแขวนตามต้นไผ่ แต่ด้วยความที่มันข้ามคืนข้ามวันไปแล้วก็ถูกนกมาจิกกินไปบ้าง ชาวบ้านไม่รู้จะทำยังไง จึงใช้กระสอบมาห่อศพไป แม่ของพี่หญิงเป็นลมไปหลายรอบ คนก็ต่างพากันว่าใครถึงได้ทำแบบนี้ แต่น่าแปลกตรงที่ตำรวจไปตรวจสภาพศพคือไม่มีร่องรอยการถูกข่มขืนแต่อย่างใด และพบว่าบริเวณหน้าผากมีรอยโดนมีดกีดลึกไปถึงกระดูกเป็นรูปกากบาทไว้
หลังจากนั้นก็เริ่มมีเหตุการณ์ความน่ากลัวต่างๆขึ้น โดยคืนหนึ่งตาซ้อนแกจะชอบจับกบจับเขียด แกต้องปั่นจักรยานผ่านดงไผ่ แกก็ไม่คิดอะไรเพราะแกเป็นคนใจถึง แต่พอผ่านมาแค่นิดเดียวก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียก น้า น้าซ้อน ..แกก็หยุดและหันไปมอง เห็นเป็นผู้หญิงเดินโซซัดโซเซออกมาจากป่าไผ่ ไม่ใส่เสื้อผ้า ตั้งแต่คอหอยมาถึงท้องน้อยแหวกออกเป็นโพรง ยืนตัวขาวซีดแล้วเรียกแก น้าซ้อนช่วยดูคนฆ่าฉันหน่อย ตาซ้อนไม่ฟังเสียงก็ทิ้งจักรยานวิ่งกลับบ้านไปเลย ชาวบ้านก็มีมาถามเรื่องนี้กับตาซ้อนแต่ก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อเพราะแกเป็นคนเมา ฝ่ายแม่พี่หญิงพอรู้ข่าวว่าลูกสาวเป็นผีมาหลอกคนก็เป็นลมเพราะสงสารลูก
ต่อมาก็มีผู้ใหญ่ได้ไปงานเลี้ยงกัน ซ้อนมอไซค์มา 2 คัน คันละ 2 คน ระหว่างทางก่อนจะถึงป่าไผ่ได้ประมาณ 4-5 วา อยู่ๆไฟหน้ารถก็ขาดพร้อมกันทั้ง 2 คัน ก็เลยจอดดู ลุงที่เป็นคนซ้อนก็เลยลงไปจุดยาสูบในตอนนั้นหางตาแกก็เหมือนเห็นเป็นขาคนอยู่ระดับคอ แกก็มองขึ้นไปดูแต่ก็ไม่มีอะไร ก็เลยตัดสินใจว่าจะขับไปแบบมืดๆ พอช่วงกำลังจะขับออกไปก็ได้ยินเสียงของหล่นข้างหลังดัง แผล๊ะ เหมือนน้ำอะไรราดลงมาหนักๆ แต่คนสมัยก่อนปากหนักก็ไม่มีใครทักท้วงอะไร จู่ๆได้ยินผู้หญิงพูดมาจากที่สูงว่า เก็บให้กูหน่อย เก็บให้กูหน่อย มองไปก็ไม่เห็นมีใครแต่พอมองลงมาที่พื้น แสงจากดวงจันทร์ก็ส่องมาเห็นเป็นกะเพราะคน ไส้อะไรต่างๆอยู่ที่พื้นมีหนอนเต็มไปหมด ในกลุ่มก็พูดขึ้นมาว่าที่ตรงนี้มีคนตาย ไอหญิงลูกสาวกำนันไง พอพูดเสร็จก็ได้ยินสียงกระโดดลงมาจากที่สูงลงไปที่ทุ่งนาหายไปเลย เรื่องนี้ก็เป็นที่โจษจันกันในหมู่บ้าน
พอถึงวันพระใหญ่ จะมีคนบ้าอยู่คนนึงนอนอยู่ศาลารอรถ ปกติไม่เคยพูดกับใครแต่วันนั้นช่วงประมาณ 4-5 โมงเย็น คนบ้าได้วิ่งมาบอกคนในหมู่บ้านว่าคืนนี้ไอหญิงจะกลับมานะ คืนนี้ไอหญิงจะกลับมา เดี๋ยวมันจะกลับบ้าน พอวิ่งไปถึงหน้าบ้านกำนันก็บอก ลุง ไอหญิงจะกลับมาบ้านนะ ไอหญิงมันคิดถึงบ้าน พูดเสร็จก็วิ่งหายไปเลย ปรากฎว่าคนในหมู่บ้านก็รีบปิดบ้านกัน วัยรุ่นที่เคยไปเดินจีบสาว ตั้งวงกินเหล้ากันก็เข้าบ้านกันหมดด้วยความกลัว พอตกดึกเวลาซักประมาณเที่ยงคืนเสียงหมาหอนมาตั้งแต่ท้ายหมู่บ้านจนมาถึงป่าไผ่ สักพักมีเสียงเหมือนคนลากของ คนก็อยากรู้กันก็แอบบดู ด้วยความที่เป็นคืนเดือนหงายก็จะมองเห็นเป็นผู้หญิงคนนึงลากถุงมาในสภาพเปลือยท่อนบน ท่อนล่างใสผ้าถุงสีดำ มือนึงคว้าเอาร่างผู้หญิงอีกคนออกมาแต่ผู้หญิงคนนั้นไม่มีหัว เอามายืนเคียงข้างกันแล้วก็ร้องไห้โหยหวย ส่วนร่างที่ไม่มีหัวก็โบกมือไปมาเหมือนกำลังควาญหาอะไรซักอย่าง คนก็ต่างพากันกลัว กลัวอะไรทั่งเหงื่อออกมือ เด็กก็ไม่กล้าร้องไห้ ซักพักนึงเสียงพากันเดินไปที่บ้านกำนัน ลุงกำนันก็เปิดไฟ ออกมาตะโกนเสียงดังหน้าบ้านว่า ทำไมมาหลอกชาวบ้าน ทำไมไม่หลอกไอคนที่ฆ่า มาหลอกชาวบ้านทำไม โอ้ยกูจะบ้าแล้ว แล้วกำนันก็ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด แต่คืนนั้นก็ยังไม่สงบ บางได้ยินเสียงเหมือนลูกมะพร้าวกลิ้งไปบนถนน ด้วยความกลัวคุณผอมเองแม้จะปวดฉี่ก็ไม่กล้าลงไปเข้าห้องน้ำ
ก็ได้พากันไปปรึกษาเกจิชื่อดังอีกอำเภอนึงที่มีคนนับถือเยอะ หลวงปู่ก็บอกมาประโยคนึงว่า ยังไม่ไปหรอก ยังไม่ถึงกาลเวลา ถ้าป่าไผ่ไม่ลุกเป็นไฟก็ยังไม่ไป เพราะเป็นที่ที่เค้าตายแต่เค้าพยายามดิ้นรนไม่อยากอยู่ ก็เลยถามหลวงปู่ว่าแล้วเค้าจะไปอยู่ที่ไหน จิตสุดท้ายเค้าอยากที่หมู่บ้าน เค้าคิดถึงพี่คิดถึงน้อง ก็เลยตัดสินใจเผาป่าไผ่ทั้งหมด แต่พอเผาไปหมดแล้วก็เป็นเรื่องน่าแปลก ถ้าใครผ่านไปแถวนั้นตอนกลางคืนแล้วมองแค่ผ่านๆก็จะเห็นเหมือนผู้หญิงกึ่งนั่งกึ่งนอนหนอนจอมปลวกอยู่ตรงนั้น และแม่พี่หญิงเองก็เคยฝันว่าลูกสาวขึ้นบ้านไม่ได้เพราะไม่มีขาจะขึ้นมา ก็บอกให้แม่ไปตามหาคนที่ฆ่ามา และเรื่องนี้ก็จางหายไปตามกาลเวลา
*จนถึงตอนนี้ก็ยังจับไม่ได้ว่าใครเป็นฆ่าแต่คาดว่าน่าจะเป็นคนในตำบลอื่นมาฆ่า โดยการรัดคอก่อนแล้วค่อยทำการชำแหละ และพักหลังมาแม่พี่หญิงก็มีอาการเพ้อ บางทีก็บอกว่า ไอหญิงมันอาบน้ำอยู่หลังบ้านโน่นแหน่ะ อาบนานแล้วยังไม่เห็นขึ้นมา ชาวบ้านต่างก็กลัวกัน
Comments
Post a Comment